Retention VS Refinance เลือกแบบไหนผ่อนบ้านได้คุ้มสุด

Retention VS Refinance เลือกแบบไหนผ่อนบ้านได้คุ้มสุด

อีกด่านโหดที่สุดหลังอนุมัติกู้เงินจากธนาคาร นั่นคือ “ผ่อนบ้าน” เพราะเป็นสิ่งที่ต้องวางแผนอนาคตดีๆ และเมื่อเข้าสู่ปีที่ 4 แล้วดอกเบี้ยจะพุ่งสูงขึ้นมากแน่นอน หลายคนจึงเริ่มเปรียบเทียบแล้วว่า ระหว่าง Retention(ผ่อนธนาคารเดิม) หรือ Refinance(ผ่อนธนาคารใหม่) แบบไหนจะคุ้มกว่ากัน และช่วยให้ผ่อนบ้านหมดเร็วที่สุด อารียาพาไปหาคำตอบกันค่ะ

Retention เป็นการต่อรองขอลดดอกเบี้ยกับธนาคารเดิม มีข้อดีอยู่ที่ความสะดวกสบาย เพราะธนาคารเดิมมีเอกสารและข้อมูลอยู่แล้ว ผู้กู้แค่เตรียมแค่สัญญาเงินกู้ ทะเบียนบ้านและสำเนา และบัตรประชาชนของผู้กู้และสำเนาเท่านั้น ระยะเวลาในการพิจารณาก็ไม่นาน รวมทั้งยังมีค่าใช้จ่ายที่ถูกกว่า Refinance ด้วย เพราะบางธนาคารคิดแค่ธรรมเนียมประมาณ 1-2% ของยอดวงเงินกู้เดิมเท่านั้น

Refinance เป็นการกู้ธนาคารใหม่มาปิดธนาคารเก่า โดยธนาคารใหม่จะให้อัตราดอกเบี้ยที่ถูกกว่า หรือเงื่อนไขดีกว่า จุดนี้จึงเป็นสิ่งดึงดูดผู้ที่ผ่อนบ้านครบ 3 ปีแรกแล้ว แต่การเตรียมเอกสาร การรออนุมัติ ก็ค่อนข้างยุ่งยากกว่า และมีค่าใช้จ่ายในส่วนนี้มากกว่าเช่นเดียวกัน

สรุปแล้ว การ Retention และ Refinance ต่างมีข้อดีข้อเสียแตกต่างกัน ซึ่งผู้กู้ควรลองมาคำนวณเงินต้นกับอัตราดอกเบี้ยที่ธนาคารเสนอมาให้ว่าแบบไหนคุ้มกว่ากัน

โดยส่วนมากบ้านที่ผ่อนครบ 3 ปีแรกยังเหลือจำนวนผ่อนอีกมาก การ Refinance จะเป็นตัวเลือกที่ดีกว่า แต่หากจำนวนที่ต้องผ่อนไม่มาก การ Retention อาจเป็นตัวเลือกที่ดีกว่า เพราะอัตราดอกเบี้ยรวมกับค่าธรรมเนียมที่เยอะในการผ่อนธนาคารใหม่แล้วพอๆ กันกับผ่อนธนาคารเดิม การได้ความสะดวกสบายอาจจะดีกว่านะคะ

เตรียมเอกสารยื่นกู้ ฉบับฟรีแลนซ์

เตรียมเอกสารยื่นกู้ ฉบับฟรีแลนซ์

การเป็นเจ้าของบ้านสักหนึ่งหลังได้นั้น ปัจจุบันมีโครงการบ้านหลากหลายทำเลให้เลือกสรรตามฟังก์ชั่นที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์และการใช้ชีวิต ซึ่งประเด็นหนึ่งที่สำคัญในการได้บ้านมาครอบครอง และไม่ควรมองข้ามเลยคือการทำเรื่องกู้เพื่อซื้อบ้านนั่นเอง สำหรับใครที่ทำงานเป็นมนุษย์เงินเดือน มีรายรับหมุนเวียนเข้าบัญชีเป็นประจำทุกเดือนอยู่แล้ว ก็ไม่น่ากังวลเกี่ยวกับเอกสารการยื่นกู้ แต่ถ้าคุณเป็นคุณหนึ่งที่ ทำอาชีพอิสระ หรือฟรีแลนซ์ ได้รับเงินค่าจ้างเป็นครั้งคราว หรือไม่สม่ำเสมอ ก็จำเป็นต้องมีการวางแผนเพื่อเตรียมเอกสารในการยื่นกู้ เพื่อให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ของธนาคาร จะได้ไม่เสียเวลาในการยื่นกู้ ก่อนอื่นเรามาดูกันว่าต้องเตรียมความพร้อม เตรียมเอกสารอะไรกันบ้าง

หลักฐานแสดงว่าทำอะไรอยู่

ก่อนการยื่นกู้และเตรียมเอกสารอื่นใด จำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องบอกและแสดงตัวตนให้ธนาคารรู้ว่าคุณคือใคร และทำอะไรอยู่ จะได้เข้าใจเรื่องการทำงาน การรับงานแล้วเกิดรายได้นั่นเอง ยกตัวอย่างเช่น

  • ขายของออนไลน์ ถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่มีรายได้จากการขายของด้วยการเปิดเพจ Facebook หรือแอปพลิเคชั่นต่างๆ ก็ให้บันทึกภาพหน้าจอ (Capture) หน้าร้านออนไลน์ของคุณมาแสดงหลักฐานได้
  • นักสร้างสรรค์ผลงาน หากคุณเป็นคนที่รับจ้างทำงาน แน่นอนว่าคุณต้องมีผลงานที่สามารถเห็นได้ อาจจะเป็นรูปภาพผลงาน รายงานการทำงาน หรือชิ้นงานที่นำส่งผู้ว่าจ้างก็ได้เช่นกัน
  • SME รายย่อย กรณีที่คุณเปิดธุรกิจเล็กๆ เพื่อรับงาน โดยมีการจดทะเบียนการค้า ทะเบียนพาณิชย์ หลักฐานการจดทะเบียนเหล่าก็จะแสดงความน่าเชื่อถือได้เป็นอย่างดี

เอกสารการรับเงิน/หนังสือรับรองหักภาษี ณ ที่จ่าย (50 ทวิ) หรือใบเสร็จรับเงินต่างๆ

มนุษย์ฟรีแลนซ์ส่วนใหญ่จะได้รับเงินค่าจ้างจากการทำงาน หลังงานนั้นเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็จะมีการจ่ายเงินค่าจ้าง ในขั้นตอนนี้จะได้รับเอกสารที่เป็นหลักฐานว่ามีการจ่ายและรับเงินจากผู้ว่าจ้าง  ซึ่งอาจจะมาในรูปแบบใบเสร็จรับเงิน หรือหนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่าย (50 ทวิ) ซึ่งปกติฟรีแลนซ์ทุกคนจะต้องเก็บเอกสารเหล่านี้ไว้เพื่อยื่นจ่ายภาษีอยู่แล้ว ก็สามารถนำเอกสารเหล่านี้มาประกอบเป็นหลักฐานการมีรายได้ตอนยื่นกู้บ้าน เพื่อแสดงที่มาของรายได้ที่ชัดเจนได้เป็นอย่างดี

เอกสารการเสียภาษี

ทุกคนที่ทำงานมีรายได้ เมื่อถึงช่วงต้นปีของทุกปีจะต้องยื่นเสียภาษีกับกรมสรรพากร โดยกลุ่มฟรีแลนซ์จะต้องยื่นเสียภาษีโดยมีเอกสาร ภงด.90 เป็นหลักฐานที่จะแสดงให้เห็นว่าในรอบปีที่ผ่านมา มีรายรับเท่าไหร่ ก็สามารถนำเอกสารนี้มาประกอบเอกสารการยื่นกู้บ้านได้

หลักฐานการเดินบัญชีธนาคาร

หลักฐานการเดินบัญชีธนาคาร หรือสเตทเมนท์ธนาคาร จะแสดงให้เห็นถึงความเสม่ำเสมอของเงินที่เข้า และออกจากบัญชีเงินฝาก เพื่อแสดงให้ธนาคารเห็นว่าคุณมีพฤติกรรมการใช้จ่ายเงินอย่างไรบ้าง สำหรับคนทำงานประจำ จะมีเงินเดือนเข้ามาทุกสิ้นเดือน และเห็นความสม่ำเสมอได้อย่างชัดเจนอยู่แล้ว แต่ในกรณีที่ทำงานเป็นฟรีแลนซ์ควรมีการวางแผนการเดินบัญชีที่ดี ในช่วงระยะเวลา 1-2 ปี

โดยการเดินบัญชีที่ดี ควรมีการฝากเงินเข้าในจำนวนและปริมาณที่ใกล้เคียงกัน หรืออาจมากกว่าก็ได้ ในช่วงวันที่ใกล้เคียงกันของทุกเดือน การถอนเงินออกสามารถทำได้ตามพฤติกรรมการใช้จ่ายทั่วไป แต่ควรมีการถอนที่ต่ำกว่ารายรับในแต่ละเดือน และควรมีเงินเหลือติดอยู่ในบัญชีด้วยจำนวนหนึ่ง ทั้งนี้ควรเดินบัญชีอย่างเป็นธรรมชาติ เพื่อไม่ให้ธนาคารมองว่าจงใจเดินบัญชีจนเกินไป

หากคุณได้เตรียมเอกสาร และทำตามหัวข้อข้างต้นแล้ว เชื่อว่าข้อมูลต่างๆ เหล่านี้จะช่วยทำให้คุณมีหลักฐานที่ครบถ้วน น่าเชื่อถือ และพร้อมที่จะยื่นกู้ซื้อบ้านได้อย่างผ่านฉลุยแน่นอน อารียา พรอพเพอร์ตี้ ขอเป็นส่วนหนึ่งที่จะช่วยสนับสนุนให้ทุกคนได้มีบ้าน และสร้างครอบครัวอย่างมีความสุขนะคะ

สิ่งที่ควรรู้ ก่อนตัดสินใจซื้อบ้าน

สิ่งที่ควรรู้ ก่อนตัดสินใจซื้อบ้าน

บ้าน ถือเป็นหนึ่งในปัจจัยสี่ที่มีความสำคัญต่อการดำเนินชีวิต โดยปกติเราต้องมีที่พักที่อยู่อาศัยกันอยู่แล้ว ไม่ว่าจะอยู่ในรูปแบบบ้านที่เป็นของครอบครัว บ้านเช่า หอพัก หรือที่อยู่อาศัยในรูปแบบต่างๆ ณ วันหนึ่งที่หลายๆ คนมีรายได้ มีศักยภาพและความพร้อมที่จะขยับขยายที่อยู่อาศัย แน่นอนว่าความคิดของการเป็นเจ้าของบ้านสักหลังจะต้องเป็นเป้าหมายของใครหลายๆ คนอย่างแน่นอน

การซื้อบ้านก็เหมือนเป็นการซื้ออนาคต บ้านจะเป็นทั้งที่พักอาศัยที่จะตอบสนองความต้องการในการใช้ชีวิต แต่ก็เป็นภาระผูกพันในระยะยาว ดังนั้นก่อนการเลือกซื้อบ้านจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องศึกษาข้อมูล และรายละเอียดต่างๆ ก่อนการตัดสินใจ มาดูกันค่ะว่าก่อนการเลือกซื้อบ้านควรต้องคำนึงถึงอะไรบ้าง

วัตถุประสงค์ในการซื้อบ้าน

            เมื่อต้องการซื้อบ้าน ผู้ซื้อต้องตั้งวัตถุประสงค์ว่าอยากได้บ้านใหม่สักหลังเพราะเหตุผลอะไร เพื่อตอบโจทย์ความต้องการให้ตรงจุด เช่น

  • คนโสด ต้องการย้ายออกมาจากบ้านของพ่อแม่ อาศัยอยู่คนเดียว ใช้บ้านเพื่อทำงาน Work From Home มองหาบ้านที่มีพื้นที่ไม่ต้องใหญ่มาก อาจจะดูเป็นทาวน์โฮม หรือบ้านแฝด
  • คู่หนุ่มสาวสมัยใหม่ (DINKs:Double Income No Kids) ต้องการใช้ชีวิตคู่อย่างอิสระ ไม่ต้องการมีลูก มองหาบ้านที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ความเป็นตัวเอง บ้านที่เลือกก็ควรเป็นบ้านที่มีฟังก์ชั่นที่สามารถออกแบบการจัดวางได้อย่างหลากหลาย
  • คู่สามีภรรยา ต้องการซื้อบ้านเพื่อเป็นเรือนหอ มองหาบ้านขนาดกลางถึงใหญ่ เพื่อรองรับการขยายของครอบครัว เมื่อมีลูกในอนาคต ก็ควรเลือกเป็นบ้านเดี่ยว มีเนื้อที่สำหรับการใช้ชีวิตแบบครอบครัว

จะเห็นได้ว่าวัตถุประสงค์ของการซื้อบ้านของแต่ละคนจะมีกรอบความต้องการนำไปสู่การเลือกบ้านให้ตรงกับการใช้ชีวิต และไลฟ์สไตล์ของแต่ละคน ทำให้รู้ว่าบ้านที่ควรจะซื้อนั้น ต้องเป็นบ้านแบบไหนถึงจะเหมาะสมนั่นเอง

ทำเลที่ตั้งเป็นอย่างไร

ทำเลที่ตั้งของบ้านเป็นประเด็นหลักอันดับต้นๆ ที่จะตอบโจทย์การใช้ชีวิต เพราะการซื้อบ้านหนึ่งหลังนั้นไม่ได้ซื้อเพียงเพื่อเป็นที่พักอาศัยเท่านั้น แต่ยังเป็นสถานที่ที่สามารถตอบสนองความสะดวกสบาย ความปลอดภัยในการใช้ชีวิต และการเดินทางสำหรับชีวิตประจำวัน บางคนต้องการทำเลใกล้ที่ทำงานจะได้เดินทางไปได้สะดวกสบาย หรือบางคนอาจเลือกทำเลบ้านไกลที่ทำงานหน่อย แต่มีระบบขนส่งสาธารณะที่สามารถเดินทางไปทำงานได้อย่างสะดวก หรือบางครอบครัวเลือกซื้อบ้านอยู่ใกล้กับโรงเรียนของลูก เป็นต้น

ทั้งนี้ไม่ว่าจะทำเลไหนที่ใครๆ ว่าดี ก็ไม่เท่าทำเลที่ตอบโจทย์ความต้องการของคุณและคนในครอบครัว ได้ดีที่สุดนั่นเอง เมื่อรู้ทำเลที่เหมาะสมแล้วถึงค่อยมาหาว่าในละแวกพื้นที่ตามต้องการนั้นมีโครงการบ้านของที่ไหนบ้างที่น่าสนใจ ที่สำคัญทำเลที่ดีควรอยู่ใกล้สิ่งอำนวยความสะดวกที่หลากหลายด้วย เช่น ห้างสรรพสินค้า, โรงพยาบาล, โรงเรียน และอื่นๆ เพื่อตอบโจทย์การใช้ชีวิตได้อย่างสะดวกสบายนั่นเอง

การออกแบบบ้าน และวัสดุที่ใช้

การเลือกซื้อบ้านสักหลังมักบ่งบอกความเป็นตัวตนของผู้อยู่อาศัย สะท้อนไลฟ์สไตล์ความเป็นอยู่ จะเห็นได้ว่าโครงการบ้านมีหลากหลายแบรนด์ให้เลือกซื้อ แต่จะมีไม่กี่ที่ ที่จะทำให้รู้สึกประทับใจในครั้งแรกเมื่อเห็น นั่นก็เพราะการออกแบบที่โดดเด่นโดนใจ ตรงกับรสนิยมของผู้ซื้อนั่นเอง

นอกจากนี้การออกแบบที่ดูดีมีสไตล์จะต้องเลือกใช้วัสดุในการสร้างบ้านที่ดีมีคุณภาพ สร้างความภูมิใจให้ผู้อยู่อาศัยว่าเป็นเจ้าของบ้านที่มีความสวยงามและปลอดภัยมั่นคง

งบประมาณและค่าใช้จ่ายต่อเดือน

การเลือกซื้อบ้านผู้ซื้อควรจะประเมินรายรับ รายจ่าย ณ ปัจจุบัน เพื่อกำหนดงบประมาณของตัวเองว่าสามารถผ่อนจ่ายได้แบบสบายๆ ต่อเดือนที่เท่าไหร่ ซึ่งควรคำนึงถึงค่าใช้จ่ายประจำ และเงินเก็บสำรองที่จะไม่ทำฝืดเคือง เพราะการซื้อบ้านถือเป็นค่าใช้จ่ายก้อนโตที่อาจส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตในระยะยาว หรือในกรณีที่มีผู้กู้ร่วม ช่วยแชร์ค่าใช้จ่ายก็จะทำให้ความสามารถในการผ่อนชำระเพิ่มขึ้น งบในการซื้อบ้านก็จะเพิ่มตามไปด้วย เมื่อคำนวณงบประมาณเรียบร้อยแล้ว ก็จะทำให้ทราบว่าสามารถเลือกซื้อบ้านในระดับราคาไหนได้บ้างนั่นเอง

บริการหลังการขาย

การบริการหลังการขายเป็นสิ่งที่ผู้ซื้อทุกคนคาดหวังกับการบริการในกรณีที่เกิดปัญหา และต้องการขอความช่วยเหลืออย่างทันท่วงที เพราะฉะนั้นการเลือกซื้อบ้านกับโครงการที่น่าเชื่อถือ เป็นตัวเลือกที่จะทำให้ผู้ซื้อมั่นใจ และเป็นตัวการันตีเรื่องการดูแลหลังการขายได้เป็นอย่างดี
การศึกษาข้อมูลและการวางแผนที่ดีจะทำให้การตัดสินใจเลือกซื้อบ้านนั้นตรงกับความต้องการได้ดียิ่งขึ้น อารียา พรอพเพอร์ตี้ ขอเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยให้คุณมีบ้านในแบบที่คุณต้องการกับชีวิตที่ลงตัว แล้วมาเป็นครอบครัวเดียวกับเรานะคะ

เตรียมตัวกู้ซื้อบ้านอย่างไร ให้ธนาคารอนุมัติ

เตรียมตัวกู้ซื้อบ้านอย่างไร ให้ธนาคารอนุมัติ

พอถึงช่วงวัยหนึ่งใคร ๆ ต่างก็ฝันอยากมีบ้านดี ๆ กันทั้งนั้น แต่ก่อนจะถึงด่านสุดท้ายของการมีบ้านก็ไม่ง่ายอย่างที่คิด เพราะด่านใหญ่ที่จะเจอ คือ ธนาคาร ที่คุณต้องขอกู้ให้ผ่าน

อารียาเตรียมเช็คลิสต์ เพื่อให้ทุกคนสร้างความพร้อมก่อนจะกู้ซื้อบ้านในฝันมาฝากกันค่ะ

1. ทำรายรับ รายจ่ายของตัวเอง เพื่อประเมินความสามารถในการผ่อน รวมทั้งสำรวจอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ โดยธนาคารแต่ละที่จะมีเงื่อนไขในการให้อัตราดอกเบี้ยแตกต่างกันและวงเงินให้กู้ก็แตกต่างกัน ซึ่งส่วนใหญ่ดอกเบี้ยสำหรับการกู้บ้านจะเป็นดอกเบี้ยแบบระยะยาว แบบที่เคยเห็นกันจะมีทั้งที่เป็น ดอกเบี้ยแบบคงที่ ดอกเบี้ยลอยตัว และดอกเบี้ยแบบผสม ซึ่งต้องตัดสินใจเลือกให้เหมาะสมกับตนเอง

2. เงินออมเป็นเรื่องสำคัญ ที่ธนาคารจะประเมินให้กู้ผ่านหรือไม่ ซึ่งควรมีเงินออมอย่างน้อย 5–15% ของราคาบ้านที่จะซื้อ เพราะนอกจากราคาบ้านแล้วอาจมีเรื่องค่าใช้จ่ายในการโอนกรรมสิทธิ จดจำนอง ค่าธรรมเนียมการยื่นกู้ และ ค่าใช้จ่ายต่างๆ อีกมากมาย

3. เคลียร์ประวัติให้สวยงาม การที่มีประวัติการชำระหนี้ที่ดี  ไม่ผิดนัดชำระจนติดแบล็กลิสต์ ถือเป็นการสร้างความน่าเชื่อถือ และสร้างเครดิตให้ตัวเอง ธนาคารจะพิจารณาปล่อยกู้ให้ง่ายขึ้น

4. ก่อนไปกู้เตรียมเอกสารให้ครบ เพื่อให้การอนุมัติเป็นไปอย่างราบรื่น โดยมีหลักฐานการทำงาน และรายได้พิเศษต่างๆ เช่น สลิปเงินเดือน ใบรับรองการทำงาน เป็นต้น รวมทั้งสำรวจเงื่อนไขและกฎเกณฑ์ในการขอสินเชื่อของแต่ละธนาคารให้ดี

ทั้งหมดนี้เป็นข้อแนะนำสั้น ๆ ใครเตรียมตัวได้ตามนี้ การกู้ซื้อบ้านอาจผ่านได้ไม่ยากค่ะ

Interior Design in Social Distancing Era

Interior Design in Social Distancing Era

Social Distancing กลายเป็น Buzz Word ที่ถูกพูดถึงบ่อยตั้งแต่เกิดโรคระบาดโควิด 19 ในวงการออกแบบคนเราล้วนมีบาเรียระยะพื้นที่ปลอดภัยหรือระยะมาตรฐานที่ไม่อยากให้คนเข้าใกล้มากกว่านี้สังเกตได้ว่าหากมีเก้าอี้ว่างเรียงติดกันอยู่เราจะเลือกนั่งเว้นระยะห่างกันโดยอัตโนมัติเมื่อโรคระบาดทำให้วงบาเรียของแต่ละคนขยายใหญ่ขึ้น ผู้คนต่างจำเป็นต้องรักษาระยะห่างกันมากขึ้นแต่ยังต้องการปฏิสัมพันธ์และทำกิจกรรมร่วมกันเหมือนเดิมเทรนด์การออกแบบพื้นที่จึงมีปัจจัยควรคำนึงมุมใหม่เพิ่มขึ้นมา


Socially Connected

คาดการณ์ว่าการออกแบบในคอนเซ็ปต์ “physically separated, but socially connected” หรือการคำนึงถึงขอบเขตพื้นที่ส่วนตัวที่มีระยะห่างแต่ไม่รู้สึกโดดเดี่ยวเกินไปจะได้รับความนิยมยิ่งขึ้นเรื่อยๆแม้ช่วงโควิดหมดไปแล้วหนึ่งในวิธีที่สามารถแบ่งขอบเขตพื้นที่ได้โดยไม่ต้องแยกห้องและให้ความรู้สึกเชื่อมถึงกัน คือ ผ้าม่านและฉากกั้น Kriskadecor เป็นบริษัทออกแบบผ้าม่านเครื่องประดับตกแต่งเพดานและผนังที่สามารถออกแบบผ้าม่านเป็นลวดลายสวยงามและแตกต่างตามความต้องการของลูกค้าทั้งเป็นลวดลายแพทเทิร์นหรือภาพได้ เหมาะแก่การประดับตกแต่งเพื่อแยกโซนพื้นที่ให้เป็นเอกลักษณ์ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่ซึ่งต้องใช้ร่วมกันอย่างออฟฟิส ร้านอาหาร บาร์ โรงแรม หรือแม้แต่พื้นที่บ้านขนาดกว้างที่อยากแบ่งสัดส่วน


Invisible Wall

ร้านตัดผม Hawthorne Studio ในนิวยอร์กอยู่ในระหว่างกระบวนการออกแบบโดยสตูดิโอ BoND ในช่วงที่เริ่มเกิดโควิดพอดีการออกแบบและตกแต่งภายในของที่นี่จึงคำนึงถึงการรักษาระยะห่างมาตั้งแต่ต้นความพิเศษ คือ ช่างทำผมสามารถคาดคะเนการเดินเข้าออกของลูกค้าในร้านได้โดยไม่ต้องมีกำแพงกั้นเลยแต่ใช้การคำนวณการสาดส่องของแสงการวางตำแหน่งเฟอร์นิเจอร์และต้นไม้รวมถึงการใช้วัสดุกรอบไม้กับผนังที่โล่งและเรียบแทนทั้งหมดนี้เป็นการจัดองค์ประกอบให้คนที่เดินเข้ามาอยากเว้นระยะห่างโดยอัตโนมัติผนังกรอบไม้ทำให้คนใช้พื้นที่ห่างกันมากขึ้น ส่วนจุดที่วางต้นไม้และเฟอร์นิเจอร์ก็ทำให้คนเดินหลบโดยอัตโนมัติ
แตกต่างจากพื้นที่กว้างโล่งที่คนมักเดินสะเปะสะปะชนกัน


Floor Guide

พื้นที่สาธารณะหลายแห่งทั่วโลกต่างใช้สัญลักษณ์ลวดลายและสีที่พื้นในการรักษาระยะห่างของผู้คน เช่น สวนสาธารณะที่ขีดเส้นเป็นวงกลมให้คนนั่งห่างกัน
สนามกีฬาที่มีลูกศรกำกับทางให้คนเดินMilliken คือ แบรนด์พรมที่เชื่อว่าการออกแบบลวดลายที่พื้นเป็นองค์ประกอบหนึ่งที่สำคัญสำหรับการออกแบบภายในเช่นกันโดยพรมคอลเล็คชั่น Social Factor มีหลายสัญลักษณ์ที่มักใช้บ่อยในยุคโควิดอย่างไรก็ตามแม้ไม่ใช่พรมที่มีสัญลักษณ์โดยตรงลวดลายที่พื้น เช่น ลายกราฟฟิค ย่อมมีส่วนช่วยสร้างมิติไกด์ทิศทางเดินและขอบเขตในห้องเพื่อตอบโจทย์การใช้ชีวิตในพื้นที่ได้เช่นกัน


Sense of Touch

โรคระบาดยังทำให้นักออกแบบคำนึงถึง Touch กันมากขึ้นไม่ใช่แค่การสัมผัสระหว่างคนเท่านั้นแต่ระหว่างคนกับผิววัสดุต่างๆด้วยการรักษาระยะห่างจะไม่มีความหมายเลยถ้าสุดท้ายเชื้อโรคสามารถเกาะติดที่ผิววัสดุนานหลายชั่วโมงจะสังเกตได้ว่าตั้งแต่เกิดโรคระบาดเราใส่ใจเรื่องความสะอาดและการจับผิววัสดุกันมากขึ้นรวมทั้งเริ่มคำนึงถึงรายละเอียดเล็กๆในบ้านที่ไม่เคยดูแลทำความสะอาดมาก่อนการออกแบบที่คำนึงถึง Social Distancing ที่ดีจึงควรคำนึงถึงวัสดุที่ใช้ด้วยควรใช้วัสดุ Anti-Bacterial Materials เช่น ทองแดง ทองเหลือง บรอนซ์ไม้ไผ่ ไม้โอ๊กโดยเฉพาะอย่างยิ่งในบริเวณที่มักแตะเป็นประจำอย่างลูกบิดประตูกลอนตู้เสื้อผ้าก๊อกน้ำหากสามารถใช้ในองค์ประกอบอื่นๆของบ้านได้ด้วยยิ่งดี

#AreeyaHome

ขอบคุณข้อมูลจาก
Cr : bobbyberk / dezeen / dezeen2 / dezeen 3/ news.fiu.edu
Cr Images. Kriskadecor / Hawthorne-Studio / Milliken

ชี้เป้าร้านขาย เฟอร์นิเจอร์วินเทจ

ชี้เป้าร้านขาย เฟอร์นิเจอร์วินเทจ

หลายคนหลงใหลในเสน่ห์ของสไตล์วินเทจ เพราะความสวยงามเหนือกาลเวลา ดีไซน์ย้อนยุคที่มีประวัติความเป็นมา และเอกลักษณ์ที่ยังคงกลิ่นอายของความอบอุ่นในวันวานความรู้สึกแบบนี้ทำให้คนจำนวนไม่น้อยชื่นชอบบ้านสไตล์วินเทจและเรารู้กันดีว่าการเลือกของแต่งบ้านแต่ละชิ้นทำให้มีความสุขแค่ไหนโพสต์นี้จึงรวบรวมร้านเฟอร์นิเจอร์และของแต่งบ้านที่คนรักความละมุนอบอุ่นแบบวินเทจได้เห็นแล้วจะมีแรงบันดาลใจอยากแต่งบ้านขึ้นมาในทันที!


Podium

Vintage Contemporary & American Retro
ซอย โปร่งใจ ทุ่งมหาเมฆ สาทร
เปิดทุกวัน 10.00 – 19.00 น.

แบรนด์ที่มีประสบการณ์ด้านงานฝีมือเฟอร์นิเจอร์ไม้มาตั้งแต่ปี 1983 สินค้ามาตรฐานคุณภาพส่งออกทั้งยุโรป อเมริกา ญี่ปุ่น ฯลฯ และยังมีการผลิตที่ให้ความสำคัญกับการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมด้วยคอลเลคชั่นที่จัดวางเข้ากับบ้านสไตล์วินเทจได้ลงตัวก็คือ ‘Cane’ ที่มีเอกลักษณ์ด้วยวัสดุดั้งเดิมอย่างหวาย ดีไซน์ได้แรงบันดาลใจจากศตวรรษที่ 17 ยุคที่ชาวยุโรปค้าขายกับชาวเอเชีย นำเสนอเทคนิคทอหวายแบบเขตร้อนของโลกการันตีความสวยสะดุดตา ส่วนอีกคอลเลคชั่นคือ ‘Art’ ที่ออกแบบสไตล์ American Retro เน้นวัสดุ เรียบ เท่ คลาสสิก หยิบบางชิ้นไปจัดวางกับบ้านของคนรักความวินเทจได้ลงตัวแน่นอน
www.podium.co.th


Papaya Design Furniture

Antique Vintage
ซอยลาดพร้าว 55/2
เปิดทุกวัน 9.00 -18.30 น.

อาณาจักรของคนรักความวินเทจมีทั้งเฟอร์นิเจอร์ยุคเก่าของแต่งบ้านของสะสมกว้างขวางจนเคลมได้ว่าเป็นร้านของวินเทจที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย เดินจนเหนื่อยทั้งวันก็ยังดูได้ไม่ครบทุกชิ้น มีทั้งงานศิลปะโบราณ ของหายาก ของ Antique สไตล์นานาชาติ Chinese vintage , Industrial vintage และอีกมากมายสุดๆเรียกได้ว่าอัดแน่นไปด้วยเสน่ห์ของความเป็นวินเทจอย่างแท้จริง
www.papaya-studio.com


The Rust Factory

Industrial Vintage
Showroom ลาดพร้าว 65
10.00-17.30 หยุดวันอาทิตย์

ใครไม่ชอบความหวานต้องมาทางนี้ของตกแต่งบ้านสไตล์ดิบเท่ในแบบยุคอุตสาหกรรม โชว์ผิววัสดุดูเรียบง่ายแต่ให้ความรู้สึกที่จริงใจและทนทานร้านของตกแต่งบ้านและเฟอร์นิเจอร์สไตล์ Industrial Vintage และ Loft ดีไซน์มีเอกลักษณ์ วัสดุจากไม้จริง เหล็ก และหนังที่มีคุณภาพสามารถสั่ง Custom-madeได้ตามต้องการ
FB : The Rust Factory


Mommy_busyday

Japanese Vintage
24/7
IG : Mommy_busyday

สมัยนี้จะแต่งบ้านก็ยังช้อปออนไลน์ได้สบายๆ คนชอบของวินเทจและเล่น Instagram ต้องเคยตาม F สินค้าร้านนี้ แต่แน่นอนว่าไม่ใช่ว่าจะได้มาง่ายๆเพราะมาไวไปไวสุดๆ สินค้าเป็นของแต่งบ้านที่ใช้งานได้จริงทั้งงานไม้และงานหวาย เหมาะกับคนชอบแต่งบ้านในโทนอบอุ่นสอดแทรกความเป็นญี่ปุ่นที่ดูน่ารัก สะอาด เรียบง่าย สบายตา ส่วนใหญ่เป็นสินค้าวินเทจญี่ปุ่นที่มีเอกลักษณ์และการใช้งานที่หลากหลาย อย่าเผลอกดเข้าไป! เพราะกระตุ้นต่อมความอยากได้ได้ดีจริงๆ ในอนาคตจะมีหน้าร้านให้ได้ช้อปกันด้วย


SB Design Square

Vintage Passion
มีสาขามากมายทั่วกรุงเทพ

บางคนชอบของสไตล์วินเทจแต่ไม่ชอบของเก่าที่นี่มีของแต่งบ้านที่ใช้เทคนิคการขัดสีเลียนแบบของเก่าแต่ออกแบบใหม่ทุกชิ้นรวบรวมเฟอร์นิเจอร์ไว้ครบครันเพื่อทุกห้องในบ้านมีตั้งแต่โต๊ะ เก้าอี้ ไปจนถึงของตกแต่งและของใช้เล็กๆ น้อยๆ อย่างกระจก นาฬิกา กล่องใส่ของถ้ามีเวลาว่างลองไปเดินเลือกดูที่ร้านจะได้สัมผัสการตกแต่งสไตล์ฝรั่งเศสแบบฉบับชาวปารีเซียงดั้งเดิมย้อนยุคซ่อนความหวานรับรองว่าได้ไอเดียเพิ่มขึ้นแน่นอน
www.sbdesignsquare.com


Moon__Theory

Nordic Vintage
24/7
IG : Moon_Theory

ความวินเทจที่ดูคิ้วท์เป็นที่สุด รวบรวมเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งจากธรรมชาติสไตล์ Scandinavian งานหวาน งานผ้าฝ้าย คุมโทนสีสินค้าไปในโทนสีขาว ไม้ และน้ำตาลที่ทำให้บ้านอบอุ่นสบายตา เสริมด้วยของตกแต่งประดับประดาเล็กๆ น้อยๆ สีพาสเทล และภาพเพ้นท์ติดผนังที่สามารถหยิบไปมิกซ์เข้ากับโรทนสีหลักได้อย่างมีเสน่ห์ใครอยากแต่งบ้านให้ดูสบายๆย้อนยุคแบบมินิมอลต้องลองติดตามไปช้อปกัน

สำหรับคนที่หลงใหลบ้านสไตล์วินเทจแบบนี้ ลองมาสัมผัสโครงการวิลเลจทาวน์ ‘The Village หทัยราษฎร์-วงแหวน’ บ้านแนวคิดใหม่สไตล์วินเทจ 2 ชั้น เป็นส่วนตัวด้วยดีไซน์ผนังบ้านอิสระไม่ติดใครห้องนอนขนาดใหญ่ 4-5 ห้องนอนพร้อมพื้นที่ความสุขกว้างขวาง 140-161 ตารางเมตร และพิเศษห้องที่สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามที่ฝัน

#AreeyaHome

ขอบคุณข้อมูลจาก
Cr Images. Podium / Papaya-studio / Mommy_busyday / SB Design Square / Moon__Theory

Multi-generational Living Space

Multi-generational Living Space


การออกแบบ คือ สิ่งที่ช่วยแก้ปัญหา Multi-generational Living Space คือ การออกแบบพื้นที่ในบ้านที่มุ่งแก้ปัญหาของคนอยู่ใต้หลังคาเดียวกัน เมื่อ BabyBoomer, Gen X, Y, Alpha ต่างมีความต้องการไม่เหมือนกันจังหวะชีวิตและภาระหน้าที่ต่างกันจะออกแบบพื้นที่ในบ้านอย่างไรให้สมาชิกต่างวัยอยู่ร่วมกันอย่างอบอุ่นตอบโจทย์การใช้งานทั้งด้านฟังก์ชันและความสุนทรีย์ของทุกคนในบ้าน มีทั้งพื้นที่ของตัวเองและพื้นที่สังสรรค์ร่วมกันมาดูเคล็ดลับการออกแบบและตกแต่งบ้าน 4 ข้อง่ายๆที่ทำให้การอยู่ร่วมกันกับคนที่เรารักเป็นเรื่องง่ายขึ้นกันดีกว่า

Design Life Flow
การใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันเป็นเรื่องน่ารื่นรมย์ถ้าออกแบบการใช้สอยพื้นที่โดยคำนึงถึงนาฬิกาชีวิตประจำวันของแต่ละคน เรื่องเล็กๆน้อยๆ เช่น ทางเข้าบ้านที่แยกกันก็ช่วยลดความวุ่นวายได้เด็กๆที่ต้องตื่นเช้าไปโรงเรียนและวัยทำงานที่ต้องกลับบ้านดึกอาจมีทางเข้าบ้านคนละประตู หรือ สมาชิกในบ้านที่นอนเร็วกับคนที่ทำงานดึกควรต้องแยกห้องนอนกันคนที่ชอบเปิดทีวีดูตลอดเวลากับคนที่ชอบนั่งเงียบๆต้องใช้สมาธิควรมีพื้นที่แยกกันหรือมีโซนในบ้านที่ชอบใช้เวลาผ่อนคลายคนละมุม

Dual purposes
กฎข้อสำคัญ คือ ออกแบบพื้นที่ให้ยืดหยุ่น เผื่อสำหรับปรับเปลี่ยนการใช้งานในอนาคตเอาไว้ เคล็ดลับในการออกแบบห้องนั้นการเปลี่ยนห้องนอนเป็นพื้นที่ใช้สอยอื่นๆนั้นทำได้ง่ายแต่การเปลี่ยนห้องประเภทอื่นเป็นห้องนอนนั้นทำได้ยากกว่าเพราะห้องนอนเป็นห้องที่ทุกคนต้องใช้และมักมีข้าวของครบครัน ทั้งเตียง ตู้เสื้อผ้าโต๊ะทำงานดังนั้นแทนที่จะออกแบบห้องสำหรับใช้งานเฉพาะเจาะจง เช่น ห้องออกกำลังกาย ห้องเล่นเกม ห้องจิบชา การออกแบบห้องโดยคิดไว้ก่อนว่าทุกห้องสามารถเป็นห้องนอนได้และสามารถปรับตกแต่งให้เป็นห้องประเภทอื่นได้ภายหลังจะตอบโจทย์บ้านที่มีสมาชิกอยู่กันหลายคนมากกว่า

Hybrid Design
เมื่อพูดถึงการตกแต่งบ้าน แน่นอนว่าสมาชิกแต่ละคนในบ้านที่ต่างวัยต่างสไตล์มักมีความชอบไม่เหมือนกันคุณยายอาจมีความชื่นชอบการแต่งบ้านแบบวินเทจในขณะที่หลานอาจชอบตกแต่งบ้านให้มีความมินิมอลแบบแสกนดิเนเวียนนักตกแต่งบ้านให้ความเห็นว่าการแบ่งพื้นที่โซนแยกกันสำหรับสมาชิกแต่ละคนช่วยให้ทุกคนตกแต่งพื้นที่ตามสไตล์ของตัวเองได้ เพราะบ้านสมัยนี้สามารถตกแต่งแบบ Hybrid ผสมผสานความร่วมสมัยกับคลาสสิคเข้าด้วยกันได้เพียงแต่สำหรับพื้นที่ส่วนกลางที่ทุกคนใช้ร่วมกันก็ควรยึดสไตล์แบบหนึ่งที่ทุกคนในบ้านเห็นชอบร่วมกัน

Interconnect Element
นอกจากการมีพื้นที่ส่วนกลางอย่างห้องนั่งเล่นแล้ว การเห็นองค์ประกอบที่รู้สึกเชื่อมโยงกับคนในบ้านก็ทำให้บ้านอบอุ่นน่าอยู่ขึ้นไม่น้อย Stairway House โดยสตูดิโอ Nendo คือ บ้านสำหรับสมาชิกในครอบครัว 3 รุ่น เป็นบ้านหลายชั้นมีเพดานสูงจุดเด่นคือบันไดเปิดที่เชื่อมต่อระหว่างแต่ละชั้นทำให้รู้สึกเชื่อมโยงถึงกันการใช้กระจกที่มองเห็นทะลุไปอีกห้องหรือมองลงไปเห็นสวนหน้าบ้านที่มีคนในครอบครัวปลูกต้นไม้อยู่ยิ่งทำให้รู้สึกถึงความเป็นบ้านที่อบอุ่นยิ่งขึ้น

#AreeyaHome

ขอบคุณข้อมูลจาก
Cr: Dezeen / FreshHome / HomestoLove

Ageing At Home

Ageing At Home


การวิจัยหนึ่งค้นพบว่า ยิ่งอายุมากขึ้น ยิ่งใช้เวลาอยู่บ้านมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อสังคมไทยกำลังเดินหน้าเข้าสู่สังคมสูงวัย เทรนด์ Home Hub หรือการออกแบบและตกแต่งบ้านเพื่อผู้สูงอายุ ผู้มีบ้านเป็นสภาพแวดล้อมหลักในบั้นปลายชีวิต เป็นสิ่งสำคัญสำหรับคนที่เราอยากดูแลรวมทั้งตัวเราในอนาคตด้วย

พื้นที่ซึ่งคำนึงต่อกายภาพและจิตใจของคนสูงวัยจะทำให้คนในครอบครัวห่วงผู้สูงอายุในบ้านน้อยลง รวมทั้งฝั่งผู้สูงวัยเองยังสามารถดูแลตัวเองได้มากขึ้นทำให้อยู่บ้านอย่างมีความสุขอีกด้วย

Universal Design
การออกแบบพื้นที่เพื่อตอบโจทย์คนทุกวัยเพื่อให้สะดวกต่อการใช้งาน เช่น ออกแบบบ้านให้มีพื้นที่ราบ Open Floor มากกว่าพื้นที่ต่างระดับมีทางลาดแทนขั้นบันไดเพื่อให้ง่ายต่อการเดิน ทางเข้าประตูที่กว้างขวางเพื่อไม่ให้เดินชนห้องน้ำมีการออกแบบอ่างอาบน้ำและที่ล้างมือให้เหมาะต่อการเคลื่อนไหวมีราวจับไม่ให้อันตรายมีพื้นที่ซึ่งสามารถหยิบจับข้าวของในบ้านด้วยตัวเองได้ง่ายมากที่สุดเป็นการออกแบบที่คำนึงเรื่องการเคลื่อนไหวทางกายภาพมาอย่างดี เพื่อให้พื้นที่ในบ้านช่วยดูแลคนที่เรารักยามแก่เฒ่า

Assisted Furniture
ในแต่ละช่วงวัย ย่อมมีเฟอร์นิเจอร์ที่เหมาะกับเราต่างกัน ที่เคยได้ยินกันบ่อย คือ ergonomic chair เก้าอี้เพื่อสุขภาพสำหรับคนวัยทำงาน สำหรับคนสูงวัยนั้นหากยกตัวอย่างแบบง่าย เฟอร์นิเจอร์ที่เหมาะสมคือเฟอร์นิเจอร์ที่มีขอบมุมมนไม่มีมุมแหลมเพื่อป้องกันอันตรายโดยสมัยนี้เริ่มมีเฟอร์นิเจอร์ที่ออกแบบมาเพื่อคนสูงวัยโดยเฉพาะแล้วอย่างคอลเล็คชั่น no country for old men มีการออกแบบเป็นทรง T-cane, U-cane และ I-cane เพื่อช่วยการเคลื่อนไหว เช่น โต๊ะขนาดเล็กเคลื่อนที่ได้สำหรับใช้เป็นทั้งไม้เท้าและโต๊ะวางถ้วยชาได้โต๊ะอ่านหนังสือที่ช่วยในการพยุงตัวให้ลุกขึ้นและเคลื่อนที่ได้เช่นกัน รวมทั้งเก้าอี้ที่มีแขนช่วยพยุงตัวให้ลุกได้ง่ายขึ้น

Bright Vibe
เมื่อแก่ตัวลงประสาทสัมผัสการมองเห็นจะไม่คมชัดเท่าเดิมทั้งระยะการมองเห็นและการรับรู้สีสันการออกแบบบ้านให้มีโทนสีสว่างและแสงไฟจ้าขึ้นจะช่วยเรื่องการมองเห็นและยังทำให้คนสูงวัยที่ต้องใช้เวลาอยู่บ้านมากรู้สึกอารมณ์ดีด้วยสีโทนอ่อนอย่างชมพูอ่อนและเขียวช่วยให้รู้สึกสงบในขณะที่สีสดใสโทนร้อนอย่างแดงหรือส้มก็ช่วยทำให้บรรยากาศในบ้านคึกคักขึ้นมาได้เรามักคิดกันว่าสีสันสดใส Pop Colour จะเหมาะกับวัยรุ่นเท่านั้นแต่บ้านโมเดิร์นที่ตกแต่งโทนสีอย่างทันสมัยก็ตอบโจทย์คนสูงวัยไม่แพ้กัน

Memory Care Design
อีกคำถามหนึ่งที่ควรคำนึง คือ ถ้าในวันที่เราความจำไม่ดีหลงลืมง่ายเราจะออกแบบบ้านอย่างไรให้อยู่ง่ายวิธีที่เรียบง่ายที่สุด คือ ออกแบบบ้านให้เรียบง่ายเน้นความ Simple ทางเดินไม่สับสนไม่วางเฟอร์นิเจอร์ให้รกตาเกินไปนอกจากนี้จากการวิเคราะห์การตกแต่งบ้านที่เหมาะสมกับคนสูงวัยผู้มีอาการความจำเสื่อมพบว่าควรหลีกเลี่ยงการใช้กระจกหรือพื้นผิวที่สะท้อนได้ให้ได้มากที่สุด เพราะจะทำให้สับสนเรื่องความทรงจำได้ง่ายเมื่อเห็นภาพสะท้อนรวมทั้งควรหลีกเลี่ยงการตกแต่งโดยใช้ลวดลายที่เป็นแพทเทิร์นให้ได้มากที่สุด

#AreeyaHome

ขอบคุณข้อมูลจาก
Cr. Ageinginplace.org / Architectmagazine / Designboom / Freshome.com

Neighborhood ย่านหทัยราษฎร์ – วงแหวน

Neighborhood ย่านหทัยราษฎร์ – วงแหวน

‘หทัยราษฎร์-วงแหวน’ ทำเลศักยภาพในโซนกรุงเทพตะวันออก พื้นที่อยู่อาศัยดั้งเดิมที่มีการพัฒนาอย่างรวดเร็ว ด้วยการคมนาคมที่ขยับขยายมีถนนตัดใหม่เชื่อมต่อไปยังหลายเส้นทาง ทั้งย่านรังสิต ปทุมธานี หรือฝั่งรามคำแหง อ่อนนุช เชื่อมต่อมอร์เตอร์เวย์ได้ง่ายดาย ใกล้จุดขึ้นด่วนจตุโชติ ทางด่วนรามอินทรา- อาจณรงค์และในอนาคตยังสะดวกยิ่งขึ้นด้วยรถไฟฟ้าสายสีส้ม (ศูนย์วัฒนธรรม – มีนบุรี) รถไฟฟ้าสายสีชมพู (แคราย- มีนบุรี) รวมทั้งส่วนต่อขยายสายสีเขียว คูคต ลำลูกกา รายล้อมด้วยโรงเรียน โรงพยาบาล รวมทั้งยังมีแหล่งไลฟ์สไตล์ครบครัน


The Promenade เดอะพรอมานาด

Lifestyle Mall ดีไซน์ยุโรปที่เหมาะกับการเดินเล่นพักผ่อนกันทั้งครอบครัว บรรยากาศโปร่งโล่งสบายมีร้านอาหารหลากสัญชาติ เช่น ร้านอาหารญี่ปุ่น Tsubohachi ร้านแพนเค้กตำรับโอซาก้า Gram Café & Pancakes ร้านแกงกะหรี่ญี่ปุ่น Hinoya Curry ร้านไอศกรีม ของหวาน อาหารไทยอีกมากมายเรียกได้ว่ามาทานได้ทุกโอกาสนอกจากนี้ยังมีร้านแฟชั่นเสื้อผ้าและร้านขายอาหารสัตว์ของใช้สัตว์เลี้ยง เติมเต็มชีวิตทุกครอบครัวได้อย่างแท้จริง


Fashion Island Shopping Mall แฟชั่นไอส์แลนด์

ศูนย์การค้าแฟชั่นไอส์แลนด์ มีพื้นที่กิจกรรมที่มีอีเวนท์หมุนเวียนมาให้คนในย่านนี้ได้เพลิดเพลินอยู่เสมอ นอกจากนี้ยังมีร้านเสื้อผ้าแฟชั่นยอดฮิตอย่าง Muji, Uniqlo, H&M อยากอัปเดทเทรนด์ก็ไม่จำเป็นต้องเดินทางเข้าเมืองไกลๆมีโซนบิวตี้สำหรับสาวๆ มีโรงภาพยนตร์ และมีธนาคารต่างๆ สะดวกสบายในการทำธุรกรรม แถมด้วยทางเชื่อมไปยังเดอะพรอมานาด เรียกได้ว่าออกจากบ้านมาไม่ไกล ใช้ชีวิตทำธุระ พักผ่อน ที่เดียวครบ


Central Plaza Ramindra เซ็นทรัล รามอินทรา

ศูนย์การค้าสไตล์ community mall เพื่อครอบครัวโดยเฉพาะ มีร้านค้าในเครือเซ็นทรัลครบครันทั้ง Power buy, B2S, Tops Supermarket, Super Sport มีโรงภาพยนตร์ระดับเวิลด์คลาส SF Cinema และยังมีกิจกรรมที่จัดเพื่อคนในย่านนี้เช่นงาน Pet show, งานเทศกาลต่างๆ , กิจกรรมประกวดวาดภาพระบายสี และอีกมากมาย ถือเป็นอีกจุดหมายที่ช่วยเติมเต็มสีสันในการชีวิตของคนในย่านนี้เลยทีเดียว


Plearnary Mall เพลินนารี่มอลล์

Shopping Mall แนวคิดสวนสนุก ให้คุณได้มาชิลล์กับครอบครัวในวันสบายๆ มี Super Market และร้านอาหารมากมายภายในตกแต่งด้วยรูปปั้นน้องหมีและตุ๊กตาหมียักษ์ที่เด็กๆ เห็นแล้วต้องชอบและที่สำคัญยังพาน้องหมามาเดินเล่นด้วยกันได้สนุกด้วยกันครบทั้งครอบครัว


Safari world ซาฟารีเวิลด์

วันหยุดวันสบายชวนครอบครัวไปเที่ยวชมธรรมชาติและตื่นตากับชีวิตสัตว์หลากชนิด ชมยีราฟ ม้าลาย สิงโต ฯลฯ ที่ Safari park และชมชีวิตสัตว์น้ำและการแสดงต่างๆ เช่นโชว์โลมา วาฬขาว ที่ Marine park ต่อด้วยความเพลิดเพลินกับการให้อาหารสัตว์ ถ่ายรูปเก็บความทรงจำที่ Jungle walk ทั้งหมดนี้ใกล้บ้านนิดเดียวอยากพักใจเมื่อไหร่ก็แวะไปได้เลย

#AreeyaHome

ขอบคุณข้อมูลจาก
Cr. travel.thaiza / bkkmenu / kubkao-kubpla / maneememore / wongnai / gems-park / msr / innnews / painaidii / Plearnary / thinkofliving / klook / m.kkday